วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

พ่อฉัน...My father..(เรื่องเล่าพ่อลูก)

พ่อของฉันเป็นผู้ชายที่แสนนนนจะธรรมดาไม่มียศฐาอะไรสักอย่าง  ท่านเป็นคนที่ใจดีเข้าใจอะไรง่ายๆพูดแล้วถูกคอ  มีครั้งหนึ่งท่านเหนื่อยจากการทำงานมาแล้วก็โทรมาหาเราเราก็คุยด้วยแล้วก็ทิ้งโทรศัพท์ลงด้วยความเบื่อหน่าย



 แล้วก็บอกขอโทษกับท่านแต่ไมสำนึกหรอก
  แต่พ่อก็รู้สึกได้ว่าเราไม่ได้ขอโทษอย่างจริงใจท่านรู้สึกเสียใจมาก 


จากนั้นท่านก็โทรหาเราเรื่อยๆตอนนั้นเราอยู่ป.2-3นี่แหละด้วยความเป็นเด็กไม่ค่อยรักพ่อแม่จึงไม่สนใจเวลาที่พ่อโทรมา..โทรมา  153 สายเราก็ไม่รับ
 เพราะเบื่ออยากเล่นกับเพื่อนมากกว่าคุยกับพ่อ


พอไปกรุงเทพโหเป็นครั้งแรกแต่ เราก็ไม่รู้ว่าแม่มาที่นี่เพื่อจุดประสงค์อะไร

แคบก็แคบ  ร้อนก็ร้อนจากนั้นอยู่ได้ไม่นานแม่พาพ่อเข้าส่งโรงพยาบาลจุฬา

 ...เราถามแม่ว่าเกิดอะไรขึ้นแม่บอกว่าพ่อเป็นมะเร็งปอด....เราก็อึ้งเฮ้ย...เเล้วเป็นเมื่อไหร่อ่ะแม่.....นานแล้ว.....ไม่มีใครบอกหนูเลยล่ะเราถามแม่.....ไม่ได้คำตอบกลับมา

 พ่อเข้ารักษาที่โรงพยาบาลให้คีโม  ให้ทุกอย่างฉายรังสี  พ่อทรมานเหลือเกิน  ผู้ชายคนนี้เมื่อก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้  เขาดูซีด...ดูผอมลงมากๆๆและดูเหนื่อยล้าเหมือนไม่อยากอยู่ต่อไปแล้วแต่พอแม่เข้าไปจับมือเขา  เขาก็ยิ้มขึ้นมาแล้วเราจากนั้นอีก2-3ปีอาการดีขึ้นแล้วจากนั้นก็ซุดลงอย่างหนัก



แต่แล้วหลังจากเรากลับจากโรงเรียน   ........  เรากับป้าแล้วก็ลุง(พี่ของแม่)ชวนเราไปรับพ่อทั้งสองไม่พูดอะไร  ระหว่างทางไปโรงพยาบาล  เราก็พูดขึ้นว่าจะให้พ่อกับแม่นั่งอยู่ข้างๆๆลุงกับป้าได้แต่ส่ายหน้าด้วยความหน้าเวทนา   เราไม่รุ้หรอกพอถึงโรงบาลปุ๊ปรีบวิ่งลงรถแล้ววิ่งเข้าห้องพักพ่อเลยไม่สนใจใครหน้าไหนแล้ว








แต่เห็นแม่ก็กวักมือเรียกให้มาหาแล้วให้ก้มกราบพ่อ  ผู้ชายคนนี้ดูอ่อนเพลีย  เหนื่อยลมหายใจของเขาระหืดกระหอบ  และจากนั้นก็ค่อยๆเบาลงในที่สุดลมหายใจนั้นก็หมดไปในเวลา  17.17  น.  



ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นทหารทำที่เพื่อชาติ  แต่เขาเป็นพนักทำงานบริษัทธรรมดาที่ทำเพื่อลูก


เขาไม่ได้หล่อเหลาเอาการเหมือนพระเอกในละคร  แต่เขาหล่อมากในสายตาลูกของเขา


บ้านพักของเขาไม่ได้ใหญ่เพื่อให้เขาได้อยู่อย่างสุขสบาย  แต่บ้านพักของเขากับเล็กเท่ารูหนูเพื่อให้ลูกเขาที่อยู่บ้านนอนสบายแทน


เขาไม่ได้กังวลเรื่องผิวหน้าของเขาว่าเวลาทำงานมันต้องขาวเนียนตลอดเวลา   แต่เขากลับกังวลว่าเมื่อไหร่ที่งานของเขาจะสมบูรณ์พร้อมใช้งานและเมื่อไหร่ที่งานเสร็จเมื่อนั้นเขาจะต้องกลับมาหาลูกทันที


ถ้าวันนี้
พ่อยังโทรมาหาเราเราจะรีบรับแล้วบอกว่าพ่อเหนื่อยไหม

ถ้าวันนี้
พ่อยังบอกกับเราว่าอย่าร้องไห้นะนำตามีไว้สำหรับคนแพ้เท่านั้นมันจะไม่มีทางไหลออกมาจากเบ้าตาเราเลย


ถ้าวันนี้

พ่อมาบอกกลับเราว่าพ่อรักหนูนะ  เราจะบอกกลับไปว่า  หนูก็รักพ่อเหมือนกัน

ถ้าวันนั้น

เรากล้าบอกพ่อพ่อจ๋าสู้ๆ  พ่อคงไม่เป็นแบบนี้

และถ้าวันนี้
พ่อยังบอกว่าชีวิตพ่อเป็นสิ่งที่มีค่า  มันก็คือหนูไง  เราจะบอกกลับไปว่า  ชีวิตหนูก็...คือพ่อน่ะเอง............


หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นคุณค่าของคนที่คุณรัก...มากกว่านี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น